เที่ยวทะเลชลบุรี 3 วัน 2 คืน
ทีม: Bestie Wanderer – คู่ซี้ตะลอนโลก
ไปกินซีฟู้ดสด ๆ จากตลาดปลากลางทะเล
ไปไหว้พระวัดบางเสร่ฯ วัดเก่าแก่กว่า 163 ปี
ไปดูวิถีชีวิตหมู่บ้านชาวประมงบางเสร่
ไปเดินเล่นฟังเสียงคลื่นชิล ๆ ริมหาด
ไปพาย SUP เล่นมัน ๆ ในทะเล
ไปนอนพักผ่อนในรีสอร์ตแสนสบาย
ไปดูพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่คาเฟ่กลางทะเล
“ชลบุรี” เป็นจังหวัดใกล้กรุงที่ไปง่าย ไปได้บ่อยไม่มีเบื่อ
และไปกี่ทีก็ดีต่อใจสุด ๆ ทั้งเดินทางสะดวก
ที่พักสวย ๆ คาเฟ่เก๋ ๆ กิจกรรมเพียบ!
แถมยังมีแหล่งอาหารทะเลสด อร่อย ไม่แพง
และยังได้อุดหนุนชาวบ้านในพื้นที่ด้วย
ทริปนี้เราจะพาไปพิกัดไหนบ้าง ตามมาชมกันได้เลย
การเดินทาง: เราสองคนขับรถไปเองจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
Day 1: เช็กอินโรงแรม Renaissance Pattaya Resort & Spa และพักผ่อน
ครั้งนี้เราพักที่โรงแรม Renaissance Pattaya Resor t& Spa (เรเนซองส์ พัทยา รีสอร์ต แอนด์ สปา)
คือเป็นที่พักที่โลเคชั่นติดทะเล ดีไซน์สวยตรงปก สมคำร่ำลือจริง ๆ
เรเนซองส์ พัทยา รีสอร์ต แอนด์ สปา อยู่ริมหาดบ้านอำเภอ จังหวัดชลบุรี บริเวณนี้จะเลยโซนพัทยามาประมาณ 30 นาที ซึ่งไม่พลุกพล่าน ค่อนข้างเงียบสงบเหมาะกับมาพักผ่อน ชายหาดและน้ำทะเลก็สะอาด ลงเล่นน้ำทะเลได้สนุก ทางโรงแรมก็มี SUP ไว้ให้เราได้พายเล่นกันด้วย
ในห้องพักตกแต่งเรียบง่ายแต่ดูดี ด้วยโทนสีขาวและฟ้าคราม ดูสบายตา ได้แรงบันดาลใจมาจากน้ำทะเล และหมู่บ้านชาวประมงในย่านนี้ ทางโรงแรมยังใส่ใจสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้ขวดน้ำแบบขวดแก้ว ลดการใช้พลาสติก และมีการคัดแยกขยะไว้สำหรับรีไซเคิล
วันแรกที่ไปถึง เราใช้เวลาพักผ่อนอยู่ในโรงแรมกันเป็นส่วนใหญ่ เพราะกิจกรรมเค้าครบจริง ๆ นอกจากชายหาดที่สวยงาม กิจกรรมริมทะเล ยังมีชุดอาฟเตอร์นูนทีอร่อย ๆ โดยขนมในเซตจะใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล สับเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ
Day 2: เที่ยวชุมชนบางเสร่ ไหว้พระวัดเก่าแก่ แวะคาเฟ่ริมทะเล
ช่วงสายเราออกเดินทางไปยังชุมชนบางเสร่ จังหวัดชลบุรี ชุมชนชาวประมงพื้นเมืองเล็ก ๆ ที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตและอาชีพดั้งเดิมของชุมชนไว้ ทั้งยังมีชายหาดอันเงียบสงบ
จุดแรกที่เราแวะคือ “สะพานท่าเทียบเรือกลุ่มประมงบางเสร่” ตรงนี้นอกจากจะเป็นที่ออกหาปลาของชาวประมงแล้ว ยังเป็นที่เอาไว้ซื้อขายของทะเลที่ชาวประมงตกขึ้นมากันแบบสด ๆ มีศูนย์การเรียนรู้เพาะพันธุ์ปูไข่ และถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่น่าแวะมาถ่ายรูปกันอีกด้วย
ใกล้กับสะพานเทียบเรือประมงมี “วัดบางเสร่คงคาราม” เราก็เลยแวะไหว้พระกันสักหน่อย วัดนี้เป็นวัดที่เก่าแก่กว่า 163 ปี ซึ่งเป็นวัดที่ชาวบางเสร่เคารพและศรัทธามาก
ถัดจากวัดบางเสร่ฯ ไม่ไกล เราก็ไปแวะไหว้พระกันต่อที่ วัดสามัคคีบรรพต หรือวัดบางเสร่นอก ถือเป็นอีกวัดคู่ชุมชนบางเสร่ที่ชาวบ้านมาไหว้พระทำบุญกัน
ช่วงเย็นเราไปแวะชิลกันต่อที่คาเฟ่กลางทะเล ณ ร้าน Kept Pier Cafe ที่นี่เป็นคาเฟ่ที่ยื่นออกไปในทะเล ตัวร้านออกแบบทางกระท่อมแนวบ้านชาวประมง พร้อมวิวทะเลแบบ 360 องศา และที่นั่งเปลตาข่ายแบบสุดชิล
บอกเลยว่าบรรยากาศช่วงเย็นสวยมาก แนะนำต้องลองมาแล้วจะติดใจ
Day 3: ว่ายน้ำเล่นที่โรงแรมก่อนเช็กเอาต์ และแวะตลาดปลากินอาหารทะเลสด ๆ ซื้อของฝากก่อนกลับ
ก่อนจะเช็กเอาต์ออกจากโรงแรม เราก็ขอว่ายน้ำเล่น ผ่อนคลายกันหน่อย ที่นี่เค้ามีสระว่ายน้ำถึงสองสระ ว่ายเล่นได้สนุกสะใจ และมีสระเด็กแยกออกไปให้น้อง ๆ หนู ๆ อีกด้วย
พิกัดสุดท้ายก่อนกลับบ้าน เรามาแวะกันที่ ตลาดสะพานปลาอ่างศิลา อยู่ที่ อ่างศิลา หมู่บ้านประมงริมทะเล จังหวัดชลบุรี ที่นี่เป็นตลาดปลากลางทะเลที่แรกในประเทศไทยด้วยนะ ตลาดอยู่บนสะพานยื่นออกไปกลางทะเลแบบนี้ เราสามารถขับรถขึ้นสะพานไปได้เลย เค้ามีที่จอดรถบนสะพาน
ตลาดเปิดทุกวัน 06.00 – 20.00 น. ด้านในตลาดสะอาด บรรยากาศไม่แออัด ขายของทะเลสด ๆ กุ้ง หอย ปู ปลา ครบมาก มีบริการปิ้งหรือนึ่งให้ด้วย ซื้อแล้วทานที่นี่เลยก็ดี หรือจะซื้อกลับบ้านก็ได้ รวมถึงยังมีขายของฝากชื่อดังของชลบุรีอย่างอาหารทะเลแห้ง ครกอ่างศิลา และข้าวหลาม
สามารถนำเสื่อมาปูนั่งทานอาหารที่ปลายสะพาน หรือนำเก้าอี้ปิกนิกมานั่งชิลก็ได้ ถ้าไปช่วงเย็นแดดร่มลมตกคือเหมาะมาก ๆ จะเห็นแสงอาทิตย์สวย ๆ แบบนี้ด้วยนะคะ แต่ทานเสร็จแล้วอย่าลืมเก็บขยะไปทิ้งในจุดที่เค้าวางไว้ให้ด้วยน้า ที่นี่จะได้สะอาดน่าเที่ยวไปนาน ๆ
เราเลือกซื้อมานั่งทานกันก่อนกลับนิดหน่อย บอกเลยว่าอาหารทะเลที่นี่ราคาดีมาก ราคาอาหารที่เราซื้อมาประมาณนี้ค่ะ (ราคาแล้วแต่ไซซ์และแล้วแต่ช่วงที่ไปซื้อ)
– หอยนางรม 80 บาท
– กุ้งมังกร 2 ตัว 490 บาท
– กุ้งเผา 220 บาท
– ปูแกะ 180 บาท
ได้ทานอิ่มอร่อยในราคาย่อมเยาว์ และได้อุดหนุนชาวบ้านในพื้นที่ด้วย คือดีเนอะ
สำหรับทริปชลบุรีครั้งนี้ก็จบกันไปอย่างอิ่มท้อง อิ่มใจ และได้พักผ่อนไปด้วยในตัว บอกเลยว่า “ชลบุรี” ไปกี่ทีก็ไม่เบื่อจริง ๆ และยังมีสิ่งให้น่าค้นหาอีกเพียบ!